ระยะเวลาในการสอบ IELTS Speaking [11-14 นาที/ 3 พาร์ท] และมีหัวข้อทั้งหมด 3 Topics
ข้อสอบส่วนนี้จะวัดว่าผู้สอบสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน โดยจะคำนึงถึง ความคล่องแคล่ว หลักไวยากรณ์ ความแม่นยำในการใช้ภาษา และการออกเสียง
หัวข้อสนทนาในแต่ละพาร์ทของ IELTS Speaking จะมีความยากง่ายและวิธีในการตอบแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะแบ่งออกเป็นดังนี้
ในพาร์ทแรกผู้สอบจะต้องเริ่มจากการแนะนำตัว เช่น บ้านอยู่ที่ไหน ครอบครัวทำอะไร ตอนนี้เราเรียนอะไร มีความสนใจในด้านใดเป็นพิเศษ จากนั้นก็จะเริ่มเข้าสู่คำถามเกี่ยวกับ General Topic หรือหัวข้อทั่วไปที่เราคุ้นเคย โดยจะมีคำถามย่อยๆจากข้อหัวที่ถามประมาณ 4-5 ข้อ
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS Speaking ในพาร์ทนี้ และคำถามที่อาจจะพบเจอ:
หัวข้อ: การใช้จักรยานในการเดินทาง
ตัวอย่างคำถาม:
- การใช้จักรยานในการเดินทางเป็นที่นิยมมากแค่ไหนในประเทศของคุณ [Why?]
- คุณปั่นจักรยานบ่อยแค่ไหน พร้อมบอกเหตุผลด้วยว่าทำไม [Why/ Why not?]
- คุณคิดว่าการปั่นจักยานเหมาะสมสำหรับคนทุกเพศทุกวัยหรือไม่ [Why?]
- ประโยชน์ของจักรยานคืออะไร มีอะไรบ้างท่าเปรียบเทียบกับรถยนต์ [Give reasons]
ผู้สอบจะได้รับ Task Card ซึ่งจะมีหัวข้อและคำถามอยู่ในการ์ดนั้น จากนั้นผู้สอบจะมีเวลา 1 นาที ในการเตรียมตัวโดยผู้สอบสามารถจด Note ในกระดาษได้ ก่อนที่จะทำการพูดตอบคำถามเป็นเวลา 2 นาที ผู้คุมสอบจะถามคำถามประมาณ 1-2 คำถาม จากหัวข้อที่ผู้สอบได้รับจากใน Task Card
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS Speaking ในพาร์ทนี้ และสิ่งที่ต้องพูดในการตอบคำถาม:
หัวข้อ: อธิบายทริปการเดินทางที่ประทับใจที่สุดของคุณ
ตัวอย่างสิ่งที่ใช้ในการพูดตอบคำถาม:
- คุณไปที่ไหนมา
- คุณเดินทางด้วยอะไร (เรือ, รถ, เครื่องบิน)
- ทำไมคุณถึงเลือที่จะไปทริปนี้
- ทำไมคุณถึงประทับใจกับทริปนี้
ในพาร์ทนี้กรรมการจะถามคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อที่เราได้จาก Part 2 ซึ่งคำถามจะเป็นการเน้นผู้สอบได้แสดงดหิลเกี่ยวกับการพูดและแสดงความคิดเห็น ในหัวข้อนั้นๆ
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS Speaking ในพาร์ทนี้ และสิ่งที่ต้องพูดในการตอบคำถาม:
หัวข้อ: เกี่ยวกับการศึกษา
ตัวอย่างสิ่งที่ใช้ในการพูดตอบคำถาม:
-
- What is your opinion on the way languages are taught in schools?
(คุณมีความเห็นอย่างไรถึงวิธีการสอนภาษาในโรงเรียน)
- What changes do you think will happen in the classroom in the near future?
(การเปลี่ยนแปลงอะไรที่คุณคิดว่าจะเกิดขึ้นในห้องเรียน ในอนาคตอันใกล้นี้)
- How are education priorities today different from those in the past?
(ลำดับความสำคัญด้านการศึกษาในปัจจุบัน แตกต่างจากในอดีตอย่างไร)
- How can the type of school you go to affect career success?
(ประเภทของโรงเรียนที่คุณเข้าเรียนมีผลกับความสำเร็จด้านอาชีพการงานในอนาคตอย่างไรบ้าง)
- ความประทับใจครั้งแรกสำคัญที่สุด
เทคนิคนี้ไม่ค่อยมีใครพูดถึงนัก แต่บอกเลยว่าได้ผลมากอย่างคาดไม่ถึง เมื่อผู้สอบเข้าไปในห้องสอบ IELTS Speaking สิ่งแรกที่ต้องทำคือการทักทายผู้คุมสอบ เราสามารถใช้โอกาศนี้ในการทำให้ผู้คุมสอบประทับใจ
ตัวอย่างเช่น เวลาที่ผู้คุมสอบถามว่า How are you? ท่าเราตอบว่า I am fine thank you, and you? ลองคิดดูว่าผู้คุมสอบได้ยินประโยคแบบนี้มาแล้วกี่ครั้ง เขาคงจะไม่ประทับใจเท่าไร
แต่ท่าเราลองเปลี่ยนมาพูดว่า I am doing great!! How about yourself? แค่นี้ก้อจะทำให้เราโดดเด่นขึ้นมาจากผู้สอบท่านอื่นๆแล้ว
- พยายามใช้คำเชื่อมประโยคให้บ่อยที่สุด
การใช้คำเชื่อมประโยคเวลาเราพูดจะช่วยให้เราจัดแจงความคิดของเราให้เป็นระบบมากขึ้น ทำให้พูดเล่าเรื่องราวออกไปได้อย่างไม่ติดขัด และที่สำคัญ การใช้คำเชื่อมจะทำให้ผู้คุมสอบสามารถเข้าใจเรื่องราวหรือคำตอบที่เรากำลังอธิบายได้มากขึ้น
ตัวอย่างของคำเชื่อมที่คนนิยมใช้คือ However, nevertheless, moreover, despite of, even though และคำอื่นๆอีกมากมาย
- ตอบคำถามให้ยาวกว่า 1 คำ หรือ 1 ประโยค
เวลาที่ผู้คุมสอบ IELTS ถามคำถามใดๆก็ตาม ผู้คุมสอบจะคาดหวังที่จะได้ยินคำตอบที่แฝงไปด้วยหลักการคิดวิเคราะห์จากคำตอบของเรา ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ใช่คำตอบที่เป็น YES หรือ NO แน่นอน เพราะฉะนั้นพยามหลีกเลี่ยงการตอบคำถามสั้นๆ เพื่อที่จะไม่ให้เสียคะแนนในการสอบพาร์ทนี้